**อ่าน Introduction ก่อนนะคะ คำแนะนำ คำอธิบายอยู่ในบล็อกนั้น **
วันที่ 1 ในอาทิตย์ที่ 1 และ 2 routines จะเหมือนกันนะคะ เนื่องจากโปรแกรมนี้เป็น Progressive program นั่นก็หมายถึง ในอาทิตย์ถัดไป ร่างกายเราจะแข็งแรงมากขึ้น เราอาจจะสามารถยกน้ำหนักได้มากขึ้น หรือทำจำนวนครั้งได้มากขึ้น
จัดตารางไว้ในปฏิทินอย่างที่แอนได้เขียนไว้ที่บล็อก Introduction of 12-week program นี้
อาทิตย์ที่ 1 และ 2 เราต้องเดินทุกวัน วันละ 15 นาที จะเดินตอนไหนก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ในวันที่ยกเวท เราก็ต้องเดิน ส่วนวันที่ไม่ได้ยกนั้น การเดิน จะเป็นตัวช่วยให้เลือด และอ็อกซิเจนหมุนเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่มันปวดเมื่อย ตรงนี้จะทำให้ร่างกายเราฟื้นฟูได้ไวขึ้นค่ะ หรือใครจะทำโยคะ พิลาทิส ว่ายน้ำ ทำกิจกรรมเบาๆได้นะคะ ขอแค่ Stay active เป็นพอ
ยกตัวอย่างนะคะ เผื่อจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น
Week 1 & Week 2
Day 1 + Walk 15 mins
Day 2Walk 15 mins
Day 3 + Walk 15 mins
จัดสรรตารางให้เหมาะกับชีวิตประจำวันตัวเองนะคะ เอาแค่เทรนให้ได้อาทิตย์ละ 3 วัน โดยมีวันหยุดคั่นระหว่างวัน ส่วนวันที่ไม่ได้เทรน ก็ Stay active
Week 1 & Week 2- Day 1: Full Body
Cardio : Walk 15 minutes everyday หรือถ้าใครอยากเดินให้นานกว่า ทำได้ค่ะ หรือจะทำคาร์ดิโอในรูปแบบอื่นได้เช่นกัน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน แต่อย่าให้หนักเกินวิดีโอนี้ แอนตัดมาให้ดูเซ็ทแรกของแต่ละท่านะคะ เพื่อนๆจะได้มองภาพออกว่า เวลาเราทำจริงๆแล้ว มันเป็นแบบนี้ ฟอร์มเป็นแบบนี้
Warm Up 5-10 mins Warm up routines
1. Air Squats 3 sets of 30-50 reps Rest 60 secs
2. Kneeling Shoulder Press 3 sets of 15 reps Rest 60 secs
3. Body Row/Invert Row 3 sets to failure Rest *90 secs*
4. Push Up 3 sets of 15 reps Rest 60 secs
5. Leg Up Crunch 3 sets of 30-50 reps Rest 60 secs
6. Hip Raise 3 sets of 15 reps Rest 60 secs
7. Plank Hold 3 sets of 30-45 secs Rest 60 secs
Stretching & Cool Down 10-15 mins Cool down & stretching routines
คำอธิบายและวิดีโอสาธิต แต่ละท่า( exercises) เราจะทำทั้งหมด 3 เซ็ท(sets) เซ็ทละ 15 ครั้ง หรือตามแต่ท่านั้นกำหนดไว้ เมื่อทำหมด 1 เซ็ท ให้พักตามที่ท่านั้นกำหนด เช่น 60 วินาที หรือ 90 วินาที แล้วเริ่มทำเซ็ทที่ 2 ต่อ ทำจนครบ 3 เซ็ท ถึงเริ่มท่าใหม่นะคะ ทำแบบนี้ถึงจนท่าสุดท้าย ท่าที่ 7
*เวลาพักระหว่างเซ็ท อย่านั่งๆเฉยๆ หรือนอนแผ่รอเซ็ทที่ 2 นะคะ ให้ดื่มน้ำ จดสกอร์ที่เราทำในเซ็ทนั้นๆ สะบัดแขน/ขา หรือเปลี่ยนเวทเพื่อเตรียมในเซ็ทต่อไป*
เลือกเวทอย่างไร หนักแค่ไหน ถึงจะได้ผลลัพธ์จากโปรแกรม อ่าน Introduction
*ทุกท่า เราต้องรักษาหลังเราให้ตรงนะคะ เพื่อป้องกันอาการปวดหลัง และการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลัง*
1. Air Squats ตาต้องมองไปด้านหน้านะคะ น้ำหนักอยู่ที่ส้นเท้า ไม่ใช่ปลายนิ้วเท้า ( My scores : 50,50,50)
2. Kneeling Shoulder Press ควรวอร์มกล้ามเนื้อหัวไหล่ให้ดี เลือกน้ำหนักเวท หรือ band ที่สามารถทำได้ 15 ครั้งนะคะ ถ้าเซ็ทแรก น้ำหนักที่เลือกนั้นรู้สึกง่าย เซ็ทที่ 2 เพิ่มน้ำหนักเวท ในทางกลับกัน ถ้าเซ็ทที่สอง กล้ามเนื้อเราอาจจะล้า เพราะฉะนั้นอาจจะต้องลดน้ำหนักเวทลง อย่าลืมจดลงในโน๊ตนะคะ
My scores ( 15,15,15 with 10 lbs. dumbbells)
3. Body Row/Bent Over Row ท่านี้จะพักนานกว่าท่าอื่นนะคะ คือ 90 วิ สำหรับคนที่ทำ Body Row/Invert Row ให้ทำ To failure นั่นหมายถึง จนยกตัวเราขึ้นไม่ไหว กล้ามเนื้อล้า
ส่วนคนไม่มีดัมเบลล์ บาร์เบลล์, resistance band, หรือ อุปกรณ์แบบแอน พวกกระเป๋าที่มีซิปรูดปิด หูหิ้ว เอามาประยุกต์ใช้กับเวิร์คเอาท์ได้นะคะ ในคลิปแอนใช้กระเป๋าผ้าอ้อมเจ้าจี เพราะตอนนี้เค้าไม่ใส่ไดเปอร์แล้ว ใส่ของต่างๆลงไป เลือกน้ำหนักที่ เราสามารถยกได้ 15 ครั้งโดยฟอร์มยังถูกต้อง
My scores : 15,15,15 (รอบแรกใช้ 25 พาวน์ ส่วนสองรอบที่เหลือ เพิ่มเป็น 30 พาวน์)
4.Push Up สำหรับBeginners เริ่มทำจากเข่านะคะ อย่าท้อ อย่าถอดใจค่ะ :)
My scores : 15,15,13 regular + 2 from knees
5. Leg Up Crunch แอนทำในเวิร์คเอาท์ 25 ครั้งเท่านั้นน่ะคะ เพราะในความคิด พวก crunch /sit up ไม่ควรทำเกิน 25 ครั้ง ที่เกินกว่านั้น มันจะไม่ได้ประโยชน์ และอาจจะทำให้ปวดหลังเปล่าๆ
6. Hip Raise/Glute Bridge แอนลืมบอกในวิดีโอว่า ท่านี้ จะให้ยาก เราต้องไม่ให้ก้นแตะพื้น ให้ก้นเราลอยเหนือพื้นประมาณนิ้วนึง เพื่อให้กล้ามเนื้อ Glutes เรา contract ตลอด
My scores :15,15,15
7. Plank Hold เริ่มต้นที่ 30 วิก่อนนะคะ ถ้าทำได้ ก็เพิ่มเวลาขึ้นได้
My scores : 45 secs, 60 secs, 60 secs
หมดแล้วนะคะสำหรับเวิร์คเอาท์วันนี้ ใช้เวลาไม่นานมากนะคะ แอนทำเสร็จเกือบๆช.ม. แต่ทำๆไป อ่ะ ลูกมาเล่นกล้องบ้าง ขอขนมบ้าง เจ้าเหมียวกระโดดขึ้นโต๊ะ ไอแพดล้ม(เกือบหล่นแหนะ) จริงๆน่าจะใช้เวลาแค่ 40 นาที ซึ่งว่าไปแล้ว เป็นเวลาที่กำลังดีนะคะ ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวไปยิม ไหนจะขับรถไปกลับ ถ้าใครไม่มีเวลาไปทำที่ยิม สามารถออกกำลังกายที่บ้านได้แบบนี้ ผลลัพธ์ออกมา ไม่แพ้กันนะคะ :)
คนที่ทำครั้งแรก โดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นเคยกับการออกกำลังกายแบบนี้ อาจจะดูขัดๆ ไม่เป็นไรนะคะ เราค่อยๆเรียนรู้ไป ทำครั้งต่อไป มันจะคล่องขึ้น ศึกษาท่าต่างๆให้ดีก่อนเริ่มออกกำลังกายนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ แล้วเจอกันที่เวิร์คเอาท์หน้า วันที่ 2 ค่ะ Keep on rockin ;)
แอน
ติดตามอัพเดทเวิร์คเอาท์จากบล็อกได้ทาง Drop Dead Healthy Facebook Page
ขอบคุณนะคะ เป็นประโยชน์มากๆเลย
ReplyDeleteขอบคุณมากๆนะคะคุณแอน ต้าเป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเริ่ออกกำลังค่ะ โดยปรกติ ก็วิ่ง 30 นาที และยกเวทบ้าง แต่พอมาเห็นที่คุณแอนทำ 12-Week Lifting Program สนใจขึ้นมาทันทีเลยค่ะ เพราะทุกวันนี้ที่ไปออกกำลังกายก็อาศัยจำท่าต่างๆไป ไม่รู้ว่าจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง แต่พอมาเห็นที่คุณแอนสาธิต บอกได้เลยว่าใช่เลย! จะลองนำไปปฏิบัตินะคะ ได้ผลอย่างไรจะแจ้งให้คุณแอนทราบ (แต่บางท่าทำนานไม่ได้ เพราะต้ามีปัญหาเรื่องหัวเข่าค่ะ แต่จะพยายามนะคะ)
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ ดีใจที่บล็อกเป็นประโยชน์
Deleteมีปัญหาเรื่องหัวเข่า อย่างท่า air squat ลองทำเป็น box squat นะคะ หาม้านั่งมาวางไว้ด้านหลัง เวลาสคว็อทลงที่ม้านั่ง ค่อยๆหย่อนก้นลงนะ อย่ากระแทก มันจะกระทบกระดูกสันหลังได้
หลักการเหมือนกันน่ะค่ะ น้ำหนักอยู่ที่ส้นเท้า
ลองดูคลิปนี้นะคะ โค้ช Bret Contreras อธิบายไว้ดีมากๆ
https://www.youtube.com/watch?v=wvCfGWlODKc
วันนี้ วันที่ 1 ตุลา เริ่มเดือนใหม่พอดี
ReplyDeleteตั้งใจว่าจะเริ่มทำ 12-Week Lifting Program ของพี่แอน
ตอนนี้เข้ามาศึกษาข้อมูลให้เข้าใจ ขอบคุณพี่แอนมากๆนะคะ บล็อกนี้ มีประโยชน์กับหนูมากจริง :)
ยินดีค่ะ ถ้ามีคำถามไม่เข้าใจ โพสไว้ที่นี่ หรือไปที่เพจเฟซบุ๊คได้นะคะ
Deleteเอาใจช่วยจ้า
สวัสดีค่ะ รู้จักบลอกคุณแอนจากการหาวิธีการทำนมอัลมอนด์ :)
ReplyDeleteมีคำถามค่ะ อย่างที่คุณแอนยกตัวอย่างว่าใช้ dumbbell 10lb นี่หมายถึงน้ำหนักรวมของทั้งสองข้าง หรือมันคือน้ำหนักต่อข้างคะ
ขอบคุณค่ะ
ขึ้นอยู่กับท่านั้นและความแข็งแรงคุณด้วยน่ะค่ะ บางท่าที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่าง หลัง ข้างละ 10 พาวน์สำหรับบางคน ถือว่ากำลังดี บางคนก็เบาไป แต่อย่าง shoulder press กล้ามเนื้อหัวไหล่ มันมัดเล็กกว่า สำหรับบางคนข้างละ 10 พาวน์ก็อาจจะหนักไป
ReplyDeleteขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล ส่วนตัวพยายามลด 7lbs จากคลอดลูกแต่มันไม่ลงแล้วค่ะ อยากลอง weight training มานาน แต่กลัวทำผิดจะกลายเป็นเจ็บตัวค่ะ แต่จะลองทำตามดูนะคะ ทำวันแรกก็ขัดๆอยู่ เพราะปกติเน้น cardio มากกว่าค่ะ นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆจะขอให้มาเป็น trainer เลยนะคะเนี่ย
ReplyDeleteขอบคุณอีกครั้งค่ะ และ ยินดีที่รู้จักค่ะ
PS If you have a chance to come to Florida, let me know na ka :)
ขอบคุณคุณแอนมากนะคะ
ReplyDeleteมีแรงบันดาลใจ สักที หลังจากมี ลูกชายได้ 1 ปี พยายาม ลดไขมันหน้าท้อง ทำยังไง ก็ยากจัง
จะลอง ดูค่ะ แล้ว มาวัดกัน ก่อนและหลัง 12 weeks จะเป้นอย่างไร
ฮึบๆๆๆ
ยินดีมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
Deleteคุณแอนคะ ขอปรึกษาหน่อย คือออกกำลังกายมาสักพัก( ส่วนใหญ่วิ่ง Elliptical) แต่เพิ่งเริ่มเล่นเวท
Deleteควรเริ่มน้ำหนักเท่าไหร่ เล่นตามโปรแกรมคุณแอนเลยได้ใช่ไหมคะ ส่วนตัวเป็นโรคเลือดธาลัสซีเมียด้วยค่ะ มีช่วงนึงที่ยก เวทหนัก แล้วพออาทิตย์ต่อมา มันก็รู้เพลียค่ะ
พี่คะ ออกกำลังกายมาจะ 2 ปี แต่เริ่มหันมาเล่นเวทเทรนนิ่งได้ แค่ 2 อาทิตย์คะ เลยไม่รู้ว่า ควร เริ่ม นน.ที่เท่าไหร่ หรือใช้นน. ร่างกายเราก่อน
ReplyDeleteต้องบอกเลยว่า กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง Push up ไม่ได้ แต่ถ้า ยกดัมเบล ได้บางท่า นน. มากสุด ที่ 2.5 กก. เลยอยากทราบว่า ควรฝึกเล่นทุกวันๆ ละส่วนไหมคะ