Pages

Thursday, December 13, 2012

น้ำมันมะพร้าว ไม่มีมีไว้เพื่อผิวสวยอย่างเดียว



1. มะพร้าวอุดมไปด้วยไวตามิน แร่ธาตุ และสารแอนตีอ็อกซิแดนท์ คนส่วนใหญ่มักได้รับไวตามิน แร่ธาตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารแอนตีอ็อกซิแดนท์ ไม่เพียงพอสำหรับต่อสู้กับความเครียดของร่างกายในแต่ละวัน ดังนั้นอาหารใดก็ตามที่อุดมไปด้วยเอนไซม์ ไวตามิน สารแอนตี้ออกซิแดนท์ และแร่ธาตุ จึงนับว่าเป็นอาหารที่ดีต่อร่างกาย

2. น้ำมันมะพร้าวมี กรดไขมันสายกลาง( MCT หรือ Medium-Chain Triglyceride) ซึ่งทำให้โมเลกุลของน้ำมันมะพร้าวมีขนาดเล็กกว่าน้ำมันประเภทอื่น ซึ่งมีกรดไขมันสายยาว(LCT หรือ Long- Chain Triglyceride )ดังนั้น น้ำมันมะพร้าวจะถูกย่อยเร็วกว่า จะถูกส่งตรงไปที่ตับเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน ส่วนกรดไขมันสายยาวนั้นจะถูกส่งไปที่ตับเช่นกันแต่ต้องใช้กระบวนการที่อ้อมกว่า กรดไขมันสายยาวจึงเป็นไขมันที่มักสะสมทำให้อ้วนมากกว่าจะถูกนำไปใช้สร้างพลังงาน

3.มะพร้าวประกอบด้วยกรดไขมันสายปานกลางดังที่ได้กล่าวแล้ว กรดไขมันนี้จะช่วยให้ร่างกายดูดซับสารอาหารอื่นได้มากขึ้น หากรับประทานน้ำมันมะพร้าวควบคู่กับอาหารอื่น นอกจากจะช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้นแล้ว กรดไขมันสายปานกลางในน้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้ร่างกายดูดซับสารอาหารที่จำเป็น วิตามินที่ละลายในไขมัน A,D,E,K ได้ดีขึ้นซึ่ง เป็นผลดีอย่างมากกับผู้ที่มีอาการป่วยเรื้อรัง เจ็บปวดเรื้อรัง เช่นโรคอักเสบในทางเดินอาหารเรื้อรัง


4.สืบเนื่องต่อจากข้อ 2. น้ำมันมะพร้าวย่อยง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เอนไซม์จากตับอ่อนเป็นตัวช่วยย่อย พูดอีกนัยหนึ่งเมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป เราต้องใช้เอนไซม์ในร่างกายมาทำการย่อยอาหารเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซับสารอาหารที่จำเป็น ซึ่งแตกต่างจากการรับประทานน้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันมะพร้าวอุดมด้วยเอนไซม์ในตัวเอง จึงทำให้ร่างกายประหยัดเอนไซม์ไว้ใช้งานอย่างอื่นเช่นซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
5. น้ำมันมะพร้าวมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัส แบ็คทีเรีย และเชื้อรา จึงสามารถลดการเกิดโรคต่างๆและลดการติดเชื้อ สาเหตุสำคัญเป็นเพราะน้ำมันมะพร้าวอุดมด้วยกรดลอริค กรดคาปริลิค และกรดคาปริก ซึ่งกรดไขมันทั้ง 3 นี้ ไม่ว่าอยู่ในอาหารชนิดใด จะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค

6. น้ำมันมะพร้าวสามารถทนกับความร้อนที่อุณหภูมิสูง เราจึงสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหารจำพวก อบ ทอด ได้อย่างปลอดภัย แต่ขอให้ใช้น้ำมันมะพร้าวที่เป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์( Extra Virgin)   อย่าใช้น้ำมันมะพร้าวที่เป็นน้ำมันมะพร้าวผ่านกรรมวิธี( refined) เนื่องจากน้ำมันถูกฟอกสี ดูดกลิ่น ผ่านความร้อนสูง สูญเสียคุณค่าหมด แม้จะเขียนไว้ที่ฉลากว่าใช้ได้ดีกับการทอดก็ตาม การใช้น้ำมันมะพร้าวที่เป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์นั้นดีกว่าตรงที่เราจะได้ประโยชน์จากกรดไขมันสายปานกลางที่เราได้กล่าวมาแล้วอย่างเต็มที่ สำหรับความแตกต่างของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์กับน้ำมันพืชบริสุทธิ์ชนิดอื่นๆคือ น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ทนต่อความร้อนสูง ส่วนน้ำมันพืชบริสุทธิ์อย่างอื่นนั้นไม่ จึงไม่ควรใช้น้ำมันชนิดอื่นปรุงอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูงเช่นการทอด เพราะประโยชน์ในน้ำมันจะสูญเสียไปและน้ำมันจะเกิดการอ็อกซิเดชั่นเป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งความเสี่ยงเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นหากใช้น้ำมันมะพร้าว

นอกจากนี้ น้ำมันมะพร้าวยังสามารถรับประทานสดๆ ผสมในเครื่องดื่ม หรือใช้ปรุงอาหารก็ได้ ซึ่งนอกจากคุณจะได้รสชาติที่อร่อยของน้ำมันมะพร้าวแล้วยังได้รับประโยชน์จากมันอีกด้วยค่ะ

แอนเอามาใส่กาแฟ ใช้ 1 ช้อนชา ใส่ออแกนิค  half-half ลงไปช้อนนึง เป็นกาแฟกลิ่นมะพร้าว หอมอร่อยดีค่ะ



ท้ายสุด น้ำมันมะพร้าวเป็นกรดไขมันแบบดี แต่ก็ยังถือเป็นแหล่งไขมัน แคลอรี่สูง 130 แคลอรี่ / 1 ช้อนโต๊ะ ควรบริโภคในปริมาณพอเหมาะ แล้วส่งผลดีต่อสุขภาพนะคะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก

www.coconut-virgin.com
www.thai-health-advice.blogspot.com
www.naturalnews.com
Dr.Mercola- Coconut oil


ติดตามอัพเดทของบล็อกได้ทาง Drop Dead Healthy Facebook Page

No comments:

Post a Comment