Pages

Tuesday, June 10, 2014

วิ่ง-ว่าย-ปั่น พุทยรัตน์ ยอดหญิงแกร่ง

สวัสดีค่ะ

วันนี้แอนมียอดหญิงอีกท่านมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ว่าเพราะอะไรเธอถึงเปลี่ยนทัศนคติจากคุณแม่ลูก1 ที่ตอนแรกต้องการแค่อยากลดหุ่น ไปเป็นนักไตรกีฬา

คุณใหม่ พุทยรัตน์ค่ะ

"เริ่มจากสมัยวัยรุ่น เราป็นคนที่ตัวใหญ่และมีปัญหาน้ำหนักเกินมาตลอด ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเราน้ำหนักไม่เคยต่ำกว่า 70 โลเลย
จนเรียนจบมัธยม เรามาเรียนต่อกทม.หลงแสงสี ทั้งของกินมากมาย ทั้งอิสระเสรีจากครอบครัว ทำให้เรากิน กิน กิน และกินอย่างลืมตัวจนน้ำหนักพุ่งไปถึง 80 กว่าโล แถมยังเริ่มดื่มแอลกอฮอล์เป็น ทำให้เราสนุกสนานมากกกก....

มาวันนึงเริ่มอยากมีแฟน เราจึงไปสรรหายาลดความอ้วนจากโรงงานแห่งนึง มันได้ผลค่ะ ลดลงเดือนละเป็น 10 โล เรากินจนลดไปทั้งหมด 20 กว่าโล ผอมสมใจ แต่ยังคงกินต่อเนื่องมา 4-5 ปี ก็อ้วนๆผอมๆอยู่หลายปี
พอเรียนจบมาทำงานตจว.เราเลยห่างจากยาลดความอ้วน ทำให้เราอ้วนน้ำหนักพุ่งกลับไปอีกเกือบเท่าเดิม...ก่อนแต่งงานเราจึงไปหายาตามเน็ตมากินก็ลดลงอีกแต่หุ่นยังเบอะๆ...
พอเราเตรียมท้อง...เราต้องหยุดยากอย่าง ทั้งต้องบำรุงเสริมอีก จนก่อนท้องนน.เราพุ่งไป 76 โล และเริ่มหันมาหาข้อมูลเรื่องอาหารการกิน
 
จนก่อนคลอดนน.เราขึ้นไปจนถึง 95 โล!!

หลังคลอดได้ 11 เดือนเราเริ่มมองหาฟิตเนสที่มีเทรนเนอร์...และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเล่ยเวทของเรา ช่วงในคอร์สเราถามข้อมูลอย่างละเอียดมาหมดเปลือก พร้อมทั้งหาข้อมูลเองไปด้วย พอจบคอร์สเราจึงเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง จนมาเจอเพจคุณแอนพร้อมๆกับ เพจน้องอิ่ม eat clean baby เราได้ใช้โปรแกรมที่คุณแอนลงไว้ให้ ทำตามจนจบมาชุดนึงเรารู้สึกว่าเราดูดีขึ้นมาก




...จนกระทั่งเริ่มบ้าพลังเพราะไปลงแข่งกีฬาในที่ทำงาน ในชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพ ในนั้นมีแต่คนชอบวิ่งแล้วคุยกันแต่เรื่องนี้อย่างสนุกสนาน จนเราเริ่มลองวิ่งกับชมรมนี้ครั้งแรกวิ่ง 10 โล เราคิดว่ามันยากเหลือเกินแต่พอผ่านไปได้แล้ว...ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปคือมันก็ไม่ได้ยากนี่นา เราก็ทำได้แฮะ



และมีบางส่วนในชมรมนี้แข่งไตรกีฬาด้วย แต่เนื่องจากประเภทผลัดเค้าหาคนว่ายน้ำไม่ได้ เราจึงตกลงร่วมทีมด้วย และนี่คือครั้งแรกของเราคือ ภูเก็ตไตรกีฬา โดยลงว่ายน้ำเป็นผลัดแรก
และครั้งนั้นเราได้เห็นบรรยากาศงานไตรกีฬาเป็นครั้งแรก และเคยคิดว่ากัฬานี้มันสำหรับคนบ้า!! แต่พอได้ร่วมงานจริงๆแล้วเกิดนึกสนุกและเห็นแล้วว่ามันไม่น่าจะยากจึงเก็บความอยากลองนี้เอาไว้เล็กๆในใจ


 
 

จนปีที่สอง...เราเริ่มเปลยๆกับพี่ๆเค้าว่าอยากลองดูซักครั้งแฮะ...พี่ๆในทีมจึงให้จักรยานมาลองขี่คันนึง เราจึงเริ่มขี่จักรยานแต่ไม่ได้เก่งอะไร แล้วก็ยังไม่ได้นึกรักมันเท่าไร เพราะเราไม่มั่นใจว่าล้อเล็กๆนั้นจะรับเราไหว -_-"

 จึงขี่ไปแบบงั้นๆมาตลอด พอดีว่ามีรายการไตรกีฬามาจัดใกล้บ้านเราพอดี และระยะไม่เยอะเกินไป เราจึงตัดสินใจลง...ด้วยความไม่มั่นใจเลยยยยยย แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วเป็นโรคไม่ค่อยยอมแพ้ตัวเองซะด้วย เราเลยเอาจักรยานมาฝึกปั่น...แค่เดือนเดียวก่อนแข่ง อาศัยว่าออกกำลังด้วยการเวทบ้าง คาร์ดิโอแบบHIIT บ้าง และก็วิ่งเบาๆมาตลอด เราคิดว่าเรามีความแข็งแรงสะสมมากพอเหลือแค่ซ้อมทักษะบ้างเท่านั้น
เราเลยเริ่มปั่นจักรยานไป-กลับจากที่ทำงาน ความรู้สึกแรกคือมันอิสระมาก และเรารู้สึกมีความสุขที่ได้ออกกำลังกาย กลางวันก็มาฝึกความแข็งแรงด้วยชุด 50-40-30-20-10 ที่เราชอบโพสน์ไว้ มันได้ทั้งความแข็งแกร่ง พร้อมคาร์ดิโอไปด้วย ตอนเย็นบางวันก็ปั่นจักรยานไปสระว่ายน้ำ ลงน้ำต่อกับลูก ช่วงนั้นเรารู้สึกว่าเราแข็งแรงมาก และภูมิใจลึกๆที่แบ่งเวลาทำได้ทุกอย่างโดยไม่ได้บกพร่องเรื่องอื่นๆ



แต่ความที่เป็นครั้งแรก...เรานึกหวั่นๆในใจอยู่ตลอดเวลา...กลัวจะไม่ถึงเส้นชัย แต่ก็แอบมั่นใจในความแข็งแรงของตัวเองอยู่ลึกๆ
จนวันแข่งเราตื่นเต้นมากและคิดเอาไว้ว่า เอาแค่ถึงเส้นชัยในเวลาที่กำหนดก็พอ...ไม่คิดว่าจะดีกว่าใครแข่งกับตัวเอง วิ่งไม่ไหวก็เดิน ว่ายไม่ไหวก็เกาะ ปั่นไม่ไหวก็เข็น แต่วันแข่งจริง เรากลับทำได้ดีชนิดที่ว่าทำด้วยความสุขจริงๆ พอขึ้นจากทะเลเป็น 1500ม.ที่เรามีความสุข ...เราทำได้แฮะเวลาดีด้วยนะ 30 กว่านาทีเอง พอตอนปั่นเราก็ไปแบบมีแต่ใจจริงๆ ปั่นไป 40 โล เกือบ 2 ชม.แต่ก็ถึงแฮะ...พอวิ่งเราวิ่งได้นิดเดียวเอง เพราะเจ็บเท้าจากการวิ่งฝ่าแดดและความร้อนจากคอนกรีต เราก็วิ่งๆเดินๆมาช้าๆ ตอนใกล้ถึงเส้นชัยเราเหลือบดูนาฬิกา...เฮ้ย!!! ยังไม่ 4 ชม.เลย เราจึงรีบๆๆๆวิ่งเข้าเส้นชัยได้ที่เวลา 3.55 ชม.แต่มีความสุขมากกกกกก

  
ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองได้แบบนี้...พอมันผ่านไปได้ เรามีความสุขมากๆๆจริงๆนะ สุขที่ชนะตัวเอง ฝืนความเจ็บปวดจนถึงเส้นชัยได้ ความรู้สึกนี้มันบรรยายไม่ถูก...รู้แต่เราอยากก้าวไปอีกขั้น...ขั้นแรกแค่ครั้งหน้าขอเวลาดีกว่านี้ซักครึ่งชม.

 



หรืออาจจะมีระยะสั้นของ IRON MAN อันนี้คิดเอาไว้เล่นๆ...อาจจะยังไม่เร็วๆนี้แต่แอบคิดไว้นิดหน่อย ก้าวถัดไปอาจจะมีโอกาสได้ลองระยะเต็มของ IRON MAN มันจะมีความอยากไปทีละขั้นๆ...ใครไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เราแนะนำให้ลอง

ชีวิตเดียว...เรามีโอกาสพิสูจน์ศักยภาพของตัวเอง...ทำเลย แล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้ยากเกินความสามารถเราเลยค่ะ เพัยงแต่ตัดสินใจทำซะให้รู้ไปเลย



ความสุขที่ชนะตัวเอง...มันไม่ได้หากันได้ง่ายๆนะคะ...วันนั้นมีความสุขจริงๆๆๆๆ ^^"

ยินดีด้วยนะคะคุณใหม่ :)

ติดตามอัพเดทของบล็อกได้ทาง Drop Dead Healthy Facebook Page
Follow me on Instagram : dropdeadhealthy

1 comment:

  1. เข้ามาชื่นชมคนที่สำเร็จจากการทำจริงๆ ตอนนี้มีแต่นั่งคิดและรออารมณ์อยู่

    ReplyDelete