Pages

Wednesday, May 16, 2012

About me. Who am I and Why am I here??

สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยมบล็อกแอน ก่อนอื่นขอท้าวความ เล่าเรื่องของตัวเองก่อนละกัน จะได้รู้ว่า เจ้าของบล็อกเป็นใคร(หลายๆคนอาจจะรู้จักแล้วเนาะ แต่อ่านเล่นพลางๆละกัน)  อะไรเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้มาถึงจุดนี้ ทำไมการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจ การเลือกรับประทานอาหาร ถึงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต พอๆกับการหายใจ ทานข้าว แปรงฟัน

เจ้าของบล็อก ตอนนี้เป็นคุณแม่ลูกสองนะคะ อายุเลข
3 นำหน้า เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกสองคน และสามี  ทำมันทุกอย่างตั้งแต่งานบ้านงานเรือน ยันงานซ่อมบ้านทาสีขอบอกว่าก่อนหน้านี้ แอนไม่เคยให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเลย ทั้งๆที่ตอนทำงานที่เมืองไทย ก็ทำงานที่ฟิตเนสมาสองปี มีความรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายบ้าง แต่ด้วยความที่ยังอายุไม่เยอะ ก็ไม่สนใจ อยากกินอะไรก็กิน ทำอะไรก็ทำ ทั้งเที่ยว ดื่ม ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ตามประสาสาวโสด

อันนี้รูปสมัยเอ๊าะๆ อายุ 24 ขวด


จนกระทั่ง แต่งงาน ท้องลูกสาวคนแรก น้องเคลี่ จากที่น้ำหนักไม่เคยเกิน
50 ก.ก. (แอนสูง 165 ซม.น้ำหนักก็ได้สัดส่วนนะ ) น้ำหนักมันพุ่งพรวดไปนู้น 79 ก.กวันคลอด แถมมีอาการครรภ์เป็นพิษ ความดันสูง บวมน้ำ เกือบจะได้ผ่าคลอดซะแล้ว พอลูกสาวคลอด ให้น้องกินนมแม่  น้ำหนักมันก็ลงมาเรื่อยๆ แล้วก็มาหยุดที่ 60  โล ตอนเคลี่อายุ 6 เดือน แล้วมันก็ไม่ลงอีกเลย -_-“ บวกกับ คู่ข้าวใหม่ปลามันนะคะ หัดทำอาหาร ทำขนม สามีก็บ้ายอ เราทำอะไรก็บอก อร่อยหมด ภรรยาอย่างเราก็ดีใจ ได้ใจ ทำใหญ่ รู้ตัวอีกที วันเกิดลูกสาว 1 ขวบ น้ำหนักมันขึ้นไปนู่น 65 ก.ก. เยอะที่สุดในชีวิตแล้ว(ไม่นับตอนท้องนะ).เลยเกิดแรงฮึดว่า ไม่ไหวแล้วล่ะ ต้องลดแล้ว กางเกงก็ยังใส่กางเกงคนท้อง เสื้อตัวใหญ่ๆ อีกอย่าง ลูกก็เริ่มวิ่งแล้ว ไอ้เรา จะไล่จับไม่ทันอีก...อันนี้คุณแม่ๆทั้งหลายคงเข้าใจได้ดีเลยเนาะ
       


ตัดสินใจเด็ดขาดเลยทีนี้ เมนูที่ทำก็เป็น low carb-low fat แป้งน้อยๆ ไขมันต่ำ เอาเวลาลูกนอน หรือแน็ปมาออกกำลังกาย 3 เดือนผ่านไป เห็นผลทันตา น้ำหนักลด เหลือ 55 โล อยากลดอีก 3 โล แต่ทำยังงัยก็ไม่ลด ออกกำลังกายก็แล้ว ลดจำนวนอาหารก็แล้ว...หมดกำลังใจค่ะ ทั้งโหย ไอ้ที่อดๆมาล่ะ อยากินมว้ากกกก เลิกออกกำลังกายเลย หันมากินแบบเดิมๆ เพราะคิดว่า น้ำหนักลดแล้วนี่นา อยากกินอะไรก็กิน แถมกินมื้อดึกอีก น้ำหนักไม่ขึ้นนะ(แอบดีใจ ) แต่ว่ารู้สึก เหนื่อย เพลียง่าย ไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเหมือนตอนออกกำลังกาย

รูปนี้ตอนเคลี่ขวบกว่าๆ



ผ่านไปอีก 3 ปี มีน้องชายให้เจ้าเคลี่  เข้าวงเวียนเดิมอีกแล้ว ตอนท้อง เวลาทอง อยากกินอะไร กินดะ กินเพื่อลูกด้วยนี่นา แอบคิดเข้าข้างตัวเอง (ข้ออ้างนะคะคุณแม่ๆ อย่าทำตาม ) น้ำหนักก็ขึ้นจาก 55 โล ไปเท่ากับท้องแรกเลย 79 โล คลอดน้องจี ให้นมแม่อย่างเดียว น้ำหนักเริ่มลง แต่ท้องนี้ ให้ความตั้งใจตัวเองแล้วว่า  จะไม่กลับไปเหมือนเมื่อก่อน ถ้าหมอบอกเริ่มออกกำลังกายได้เมื่อไหร่ จะเริ่มบึ๊ดจ้ำบึ๊ดทันที รับตัวเองไม่ได้อย่างแรงงงงง อีกอย่าง แม่ย่าบอกว่า ยูลูกสองแล้ว ต้องเรียกหุ่นเดิมกลับมานะ จะได้มีแรงเลี้ยงลูกด้วย

หลังคลอดเจ้าจีได้ 3


พอเจ้าจีอายุได้ 4 เดือน แอนหาซื้อซีดีออกกำลังกายอันใหม่ๆมา เพราะที่มีอยู่ มันเก่าอ่ะ เบื่อแล้ว ออกไปก็เบื่อ ทำไม่ได้เต็มที่ ซื้อใหม่บ้าง ยืมแม่ย่าบ้าง ทั้ง Zumba, Tae Bo, Turbo Jam แล้วก็ได้ซีดีของ Jillian Michaels มาสองซีดี ตัวนึงเป็นคาร์ดิโอ อีกตัวเป็นยกเวท  ครั้งนี้ ควบคุมอาหาร กินแต่พออิ่ม ไม่เคร่งเหมือนตอนครั้งแรก


 
4 เดือนผ่านไป น้ำหนักก็ลดลงเกือบเท่าก่อนท้อง คือ 118 พาวน์ แต่อีกแล้วค่ะ โรคเก่ากำเริบ >__< โรค perfectionist ของผู้หญิงเรา อยากจะได้กลับไปเท่าเดิม หมกมุ่นกะตัวเลขบนตาชั่งมากมาย อยากจะให้มันกลับไป 115 พาวน์  เพราะคิดว่า มันเป็นน้ำหนักที่เหมาะที่สุดสำหรับตัวเราแล้ว....เหมือนเดิมเลย ทำยังงัยก็ไม่ลด ชั่งมันทุกวันจนตาชั่งจะพัง  ออกกำลังกายก็ยังออก ลดอาหาร อดข้าวเย็น...ตัวเลขก็เท่าเดิม...ท้อเลยทีนี้ หมดความตั้งใจอีกแล้ว...เบื่อซีดีเก่าๆ ทำซ้ำๆเดิมๆ ก็กลับไปกินแบบเดิม กินจุบจิบ มีกินพวกอาหารจีนด้วยนะ ทุกวันศุกร์ เพราะขี้เกียจคิดเมนูทำอาหาร อีกอย่าง อาหารจีนมันถูกด้วยล่ะค่ะที่นี่ ชุดนึง 5.99 เหรียญเอง กินได้สองมื้อ แบ่งลูกกินอีก  2-3เดือนผ่านไป น้ำหนักมันเด้งกลับคืนมาอีก 5 โล...โยโย่เอฟเฟ็ค งัยคะ คราวนี้ สัญญากับตัวเองว่า ต้องหาวิธีที่ทำให้เราออกกำลังกายได้สม่ำเสมอซะที เบื่อกับน้ำหนักขึ้นๆลงๆแบบนี้แล้ว

เกือบปีผ่านไป มาวันนึง นั่งดูโน่นนี่ในเน็ต คือ ใจจริง อยากหาเวิร์คเอาท์ใหม่ๆ ซีดีใหม่ๆ ก็มาสะดุดกับเว็บไซเว็บนึง เจ้าของเว็บเค้าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ว่าหุ่นดี แล้วก็แข็งแรงมาก ทำ
Pull ups/Push ups ได้ดูแบบง่ายๆมาก ประทับใจเค้าสุดๆ คิดว่า เราน่าจะทำแบบเค้าได้นะ ถ้าเค้าทำได้ เราก็ทำได้
เวิร์คเอาท์เป็นการใช้
bodyweight หรือใช้แค่ตัวเรานี่แหละค่ะ อย่างเดียว ไม่มีอุปกรณ์อื่นเลยนอกจาก นาฬิกาจับเวลา interval timer เวิร์คเอาท์แต่ละวันไม่ซ้ำกัน ทำเสร็จภายในครึ่งช.ม. น่าลองมากๆ ตัดใจสินลองทำ

Push ups หรือวิดพื้น ตอนที่เริ่มออกกำลังกายนี่ ทำไม่ได้เลยสักครั้ง โดดแป๊ปๆก็เหนื่อยแฮ่กๆๆ  แต่เราไม่ย่อท้อนะคะ กัดฟันสู้ อีกทั้งเราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่ ผ่านไป 2 เดือนเท่านั้น น้ำหนักที่มันเพิ่มขึ้น หายแว้บไปเลย แถมเริ่มมีกล้ามเนื้อให้เห็นนิดๆ กำลังงาม...


มาถึงวันนี้
2 ปีกว่าแล้วที่เริ่มออกกำลังกายจริงจัง ไม่ได้ย่างกรายเข้าไปฟิตเนสเลย เพราะค่าเมมเบอร์มันแพงอ่ะ เวิร์คเอาท์ที่บ้านอย่างเดียว ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ออกได้หมด   อาจจะมีออกนอกลู่นอกทางบ้าง ทานอาหารเน้นสุขภาพมากขึ้น มีพวกไอติม เค้กบ้างไรบ้างแต่ไม่บ่อย เวลาเราได้ดูแลสุขภาพตัวเองแล้ว มันเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างด้วยนะ สามี ลูกๆ ลูกเราชอบทานผักผลไม้มากขึ้น ชอบวิ่งเล่น ออกกำลังกายกับเรา  สำหรับตัวเรา การออกกำลังกายมันไม่ได้ให้แค่เปลี่ยนแปลงภายนอกเท่านั้น แต่ทำให้จิตใจเรา สงบมากขึ้น มีความอดทนไม่ย่อท้อ มีวินัยมากขึ้น ทำให้เรารู้จักรักตัวเอง มองข้ามจุดบกพร่อง แต่ให้ความสำคัญของจุดเด่นที่เรามี

รูปนี้คือล่าสุด น้ำหนักประมาณ 120-124 พาวน์ แล้วแต่วันไหนดื่มน้ำเยอะ/ทานเยอะ :)


แอนจึงทำบล็อกนี้ขึ้นมาเผยแพร่ แบ่งปันความรู้ เกร็ดดีๆของการดูแลสุขภาพร่างกาย ไม่ว่า จะเรื่องออกกำลังกาย โภชนาการอาหาร แรงจูงใจ เกร็ดความสวยงามนิดๆหน่อยๆ อยากให้ทุกคนหันมาดูแลตัวเองกันเยอะๆนะคะ อย่าคิดว่า เดี๋ยวก็ได้ เพราะเวลามันไม่รอเราหรอกค่ะ เริ่มซะตั้งแต่วันนี้ ทุกคนมีร่างกายเดียว หัวใจเดียวนะคะ เสียไปก็ซ่อมยาก หรืออาจจะซ่อมไม่ได้เพราะฉะนั้นรักษาดูแลให้ดีๆนะคะ

Follow me on Facebook Click here

No comments:

Post a Comment